ลักษณะทั่วไปของเพลงอีแซว

       
          การเล่นเพลงอีแซวเริ่มจากการตั้งวง หญิงครึ่งชายครึ่ง ยืนเป็นวงกลมหรือเป็นแถบ ร้องเพลงโต้ตอบกันไป เพลงนี้มีจังหวะเร็วมาก คนร้องต้องด้นเพลงเก่ง
          เดิมทีเพลงอีแซวไม่ได้เป็นเพลงหา เขาเล่นกันสนุกๆ ไม่ต้องไหว้ครู ไม่ต้องทำแบบแผนอะไร ต่อมาเมื่อเป็นเพลงหาก็มีการไหว้ครูเกิดขึ้น โดยที่ชายนั่งยองๆถือพานกำนลว่าไหว้ครูก่อน ต่อจากนั้นหญิงนั่งพับเพียบ แล้วชายก็ออกมาร้องเกริ่นหญิงออกมาร้องเกริ่นจากนี้ก็ว่าประกันไป
          จะสังเกตได้ว่าเพลงอีแซวจะเดินตามแบบเพลงฉ่อย ยกเว้นแต่ว่าเพลงอีแซวมีฉันทลักษณ์อย่างเดียว ไม่เหมือนเพลงฉ่อยที่มีฉันทลักษณ์ 2 แบบใหญ่หากไม่พูดถึงที่ต้องร้องเร็วๆแล้ว เล่นเพลงอีแซวมีความง่ายกว่าเพลงฉ่อยการเดินความต่างๆ ก็เหมือนเล่นเพลงฉ่อยอีก เช่น มีตับเช่านา เช่าเรือ เช่าควาย ตัวแมว ตับม้า แล้วแต่ใครจะดึงไปทางไหน ถ้าเล่นเพลงฉ่อยได้ก็สามารถเล่นเพลงอีแซวได้เช่นกัน
          การแต่งตัวคือจะนุ่งโจงกระเบนกันทั้งหญิงและชาย เครื่องประกอบจังหวะแต่เดิมมีเพียงแค่การตบมืออย่างเดียว ภายหลังเมื่อไม่นานจึงมีฉิ่งและกรับตะโพนเข้ามาตีประกอบ










          ปัจจุบันเพลงอีแซวยังคงมีเล่นกันอยู่โดยเฉพาะในบรรดาพ่อเพลงแม่เพลงที่เล่นเพลงเป็นอาชีพ ทั้งในสุพรรณบุรีและอ่างทอง  ถึงแม้พ่อเพลงแม่เพลงระดับสมัครเล่นจะร้องเพลงอีแซว หรือรู้จัเพลงอีแซวน้อยกว่าเพลงฉ่อย แต่ว่าในแง่ความนิยมแล้ว จะพบว่ามีคนมาหาเพลงอีแซวไปเล่นตามจังหวัดต่างๆไม่น้อยเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ ขวัญจิต ศรีประจันต์ ลูกศิษย์ของ นายไสว แม่บัวผัน มีชื่อเสียงขึ้น ก็มีผู้มาติดต่อไปเล่นตามงานต่างๆอย่างไม่ขาดสาย










Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution 4.0 International License.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น